สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ถูกแฮกข้อมูลอินเทอร์เน็ตมากสุดในโลก ไทยตามมาอันดับที่สอง
เว็บไซต์บิสซิเนส อินไซเดอร์ สื่อวิเคราะห์ด้านธุรกิจและการเงินของสหรัฐฯ เผยว่า บริษัทด้านการปกป้องข้อมูลคอมพิวเตอร์ นอร์ส (NORSE) เปิดเผยถึงสถิติการโจมตีเพื่อเจาะฐานข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยพบว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่เป็นเป้าหมายถูกโจมตีมากที่สุดในโลก ด้วยสถิติ 5,840 ครั้ง ใน 45 นาที โดยมีไทยตามมาในอันดับที่สอง ด้วยสถิติการถูกโจมตีฐานข้อมูล 220 ครั้งในเวลาเท่า ๆ กัน น้อยกว่าสหรัฐฯ อยู่ประมาณ 27 เท่า
ส่วนประเทศต้นทางที่ก่อเหตุเจาะระบบโจมตีมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ ประเทศจีน โดยมีสถิติพยายามโจมตี 2,513 ครั้งใน 45 นาที ตามมาด้วยสหรัฐฯ ที่ 1,550 ครั้งในเวลาเท่ากัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่นักแฮกจากสหรัฐฯ มักมีเป้าหมายโจมตีคอมพิวเตอร์ภายในประเทศของตนเอง
สถิติที่ได้นี้ มาจาก “แฮ็กกิ้งแมป” ซึ่งแสดงการโจมตีฐานข้อมูลที่เกิดขึ้นยังจุดต่าง ๆ ทั่วโลกแบบเรียลไทม์หรือตามเวลาที่กำลังเกิดขึ้นจริง ผ่านทางเว็บไซต์ ipviking ซึ่งแสดงทั้งเป้าหมายที่โดนโจมตีและต้นทางที่เหล่าแฮกเกอร์ทำการโจมตีมา แต่อย่างไรก็ดี
แหล่งข่าวระบุโดยอ้างจากนิตยสารสมิธโซเนียนว่า สถิติที่เห็นใน แฮกกิ้งแมป เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะระบบนี้ยังไม่สามารถตรวจจับการโจมตีฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุมทั้งหมด
สำหรับสถิติที่เกิดขึ้นจริงเท่าที่ตรวจจับได้ พบว่า ฐานข้อมูลอินเทอร์เน็ตภายในรัฐยูทาห์ถูกโจมตีมากถึงวันละ 20 ล้านครั้ง ส่วนระบบคอมพิวเตอร์ของเฉพาะตึกเพนตากอนเอง ก็ถูกโจมตีถึงวันละ 10 ล้านครั้งเลยทีเดียว
บิสซิเนส อินไซเดอร์ ยังได้รายงานต่อว่า การโจมตีระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์จากประเทศจีน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสหรัฐฯ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง โดยในขณะนี้จีนกำลังพัฒนาเครื่องบินที่ได้รับการต่อยอดจากโมเดลเครื่องบิน F35 เจเนอเรชั่น 5 ของสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยไป
ข่าวโดย : กระปุกดอทคอม
ออสเตรเลียเผย ผู้โดยสารบนเครื่องบิน MH370 น่าจะขาดอากาศหายใจระหว่างที่เครื่องบินต่อไปด้วยระบบอออโต้ไพลอท
ตามรายงานจากเว็บไซต์ ไอบีไทม์ส เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2557 ระบุว่า คณะกรรมการความปลอดภัยคมนาคมของออสเตรเลีย ได้เผยในรายงาน 55 หน้า ว่า จากการเปรียบเทียบเหตุการณ์ของ MH370 กับอุบัติเหตุทางการบินอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน พบว่า
ลักษณะที่นักบินขาดการติดต่อไปแต่เครื่องกลับยังบินต่อไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่จับได้จากดาวเทียม ทำให้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ MH370 จะบินด้วยระบบออโต้ไพลอต
เมื่อประกอบเข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ไม่มีการโต้ตอบกลับใด ๆ จากนักบินในช่วงสุดท้าย ดังนั้น การขาดอากาศหายใจจนออกซิเจนในเลือดลดต่ำและทำให้หมดสติ จึงเป็นสมมติฐานที่เข้ากับรูปการณ์ตามหลักฐานที่มีอยู่ที่สุด
นอกจากนี้ เอทีเอสบียังได้ประกาศพื้นที่ค้นหาใหม่อีก 60,000 ตารางกิโลเมตร ตามแนวเส้นโค้งที่ 7 (seventh arc) จากจุดที่ MH370 ขาดการติดต่อกับทางภาคพื้นดินไป
โดยบริเวณนี้อยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของเมืองเพิร์ธ ประมาณ 1,930 กิโลเมตร และไกลออกไปอีกจากจุดค้นหาเดิม แต่อย่างไรก็ดี ระยะห่างนี้บอกเพียงว่าเครื่องบินอยู่ไกลจากดาวเทียมเท่าไรเท่านั้น ไม่ได้บอกถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์แต่อย่างใด
โดยทีมสำรวจจะต้องทำแผนที่การสำรวจก้นทะเลสำหรับ MH370 อีกครั้ง หลังจากได้สำรวจบริเวณผิวทะเลมาแล้วตั้งแต่ช่วง 3 สัปดาห์แรกที่เครื่องบินหายไป
ทั้งนี้ รายงานจากเอทีเอสบีฉบับนี้ ออกมาเพียงไม่กี่วันหลังจากมีการยืนยันว่า เครื่องจำลองการบินที่บ้านของกัปตันซาฮารี ชาห์ มีการจำลองการบินไปลงที่เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในมหาสมุทรอินเดีย โดยทีมสืบสวนได้สรุปให้กัปตันซาฮารีเป็นบุคคลที่เข้าข่ายน่าสงสัยที่สุด จากเหตุการณ์เครื่องบินหายที่เกิดขึ้นนี้
ข่าวโดย : กระปุกดอทคอม
หน่วยกู้ภัยระดมช่วยหนุ่มอเมริกันขาติดอยู่ในรูปสลักอวัยวะเพศหญิงในเยอรมนี
หนุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยนจากสหรัฐใน “มหาวิทยาลัยทูบินเกน” ในเยอรมนี เล่นพิเรนทร์ต้องการถ่ายรูปกับหินสลักรูปอวัยวะเพศหญิงที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าคณะจุลชีววิทยาและพยาธิวิทยา
ชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปบริเวณช่องตรงกลางของรูปสลัก แต่สุดท้ายเกิดล้มคะมำลงทำให้ขาเข้าไปติดอยู่ในรูปสลักดังกล่าว เอาไม่ออกแต่ร่างกายส่วนบนยื่นออกมาด้านนอก
ทั้งนี้ หนุ่มคนดังกล่าวซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อพยายามที่เอาตัวเองออกมาจากรูปหินสลักรูปอวัยวะเพศหญิงเนื่องจากเริ่มอายผู้คนที่เดินผ่านไปมา แต่ก็ไม่สามารถเอาตัวเองออกมาได้
เพื่อนของหนุ่มรายดังกล่าว ได้เรียกหน่วยกู้ภัยซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบรุดมาดูจุดเกิดเหตุจำนวนมากถึง 22 นาย มาช่วยกัน งัดขาของหนุ่มอเมริกันออกจากรูปปั้น
เพื่อนของหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ถ่ายรูปขณะ เกิดเหตุการณ์ไว้ และโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต พร้อมกล่าวว่า เขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนของเขาแค่อยากได้รูปตลกๆแต่กลับจบลงเช่นนี้ และหน่วยกู้ภัยไม่ตลกกับเหตุที่เกิดขึ้นเลย ในที่สุดหน่วยกู้ภัยก็สามารถช่วยหนุ่มอเมริกันออกมาจากรูปปั้นได้สำเร็จ
รูปปั้นดังกล่าวมีชื่อว่า “พี-ชาคาน” เป็นภาษาเปรูท้องถิ่นแปลว่า “ร่วมรัก” แกะสลักโดยศิลปินชาวเปรู “เฟอร์นันโด เดอ ลา จารา” มีมูลค่า 95,000 ปอนด์อังกฤษ หรือราวๆ 5.3 ล้านบาท ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยดังกล่าวมาแล้ว 13 ปี
ข่าวโดย : เดลินิวส์
สหรัฐฯ ได้เตรียมพิจารณาคว่ำบาตรไทยภายใน 90 วัน หลังผลการจัดอันดับประเทศที่มีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ เผยว่า ไทยถูกลดอันดับร่วงสู่บัญชีอันดับสุดท้าย (Tier 3) หรือบัญชีดำ
อันเป็นประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์รุนแรงและไม่แสดงออกถึงความพยายามในการแก้ปัญหา ร่วมกับอีก 2 ประเทศ คือ มาเลเซียและเวเนซุเอลา โดยการหากสหรัฐพิจารณาตัดสินใจคว่ำบาตรจริง ก็จะทำให้ไทยตกอยู่ในสถานะเดียวกันกับที่ สหรัฐฯ คว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือและซีเรีย
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ตอบโต้การจัดอันดับดังกล่าวของสหรัฐฯ โดยร้องเรียนให้มีการพิจารณาการจัดอันดับใหม่ เพราะกลุ่มบัญชีดำนั้นหมายถึงประเทศที่ไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหาเลย
การถูกลดอันดับนี้ของไทย ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการลงทุนจากนานาประเทศในภาคอุตสหกรรมที่มีปัญหา เรื่องการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการประมง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้สูงให้กับประเทศ โดยไทยเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ที่สุดของโลก
นอกจากนี้ การถูกลดอันดับยังอาจทำให้ไทยสูญเสียความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในด้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าและการค้ามนุษย์ รวมทั้งถูกขัดขวางจากการช่วยเหลือของสถาบันระหว่างประเทศ อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก เป็นต้น
แหล่งข่าวยังระบุว่า ผู้ที่ถูกหลอกมาอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์นั้นมาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยถูกบังคับหรือล่อลวงมาให้เข้าสู่การขายแรงงานหรือหาผลประโยชน์จากธุรกิจทางเพศ ส่วนใหญ่จะเข้าสู่แรงงานในอุตสาหกรรมประมง สิ่งทอ และงานแม่บ้าน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังระบุรายงานจากสื่อถึงความซับซ้อนของกระบวนการค้ามนุษย์ใน ประเทศไทย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือ รู้เห็น หรือแสวงหาผลประโยชน์ จากพลเรือนไทยและเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ดังกรณีชาวมุสลิมโลฮิงญากว่า 10,000 คนที่หนีมาจากประเทศพม่า แล้วถูกย้ายตัวจากสถานกักกันผู้อพยพไปขายต่อโดยส่งตัวกันบนเรือกลางทะเล
ทางด้านเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐ นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า ไทยมี ความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์มาโดยตลอด ในปี 2556 มีการตัดสินโทษผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 225 ราย ซึ่งมากเป็น 4 เท่าของปี 2555 โดยเจ้าหน้าตำรวจอย่างน้อย 33 ราย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 5 ราย ถูกลงโทษหรือกำลังอยู่ในขบวนการพิจราณาดำเนินการทางคดีแพ่งและอาญา
อย่างไรก็ดี ทางสหรัฐฯ ระบุว่าไทยไม่ได้แสดงให้เห็นความพยายามากพอในการแก้ปัญหา เช่นเดียวกับมาเลเซียที่ไม่ปรับปรุงเรื่องความคุ้มครองเหยื่อจากการค้า มนุษย์อีกครั้งในปี 2555
จำนวนคดีพิพากษาเกี่ยวกับการค้ามนุษ์ก็ลดลงจากเดิม ด้านเวเนซุเอลาก็ไม่แสดงความแข็งขันมากพอในการปราบปรามต่อต้านปัญหาค้า มนุษย์มาเป็นแรงงานและให้บริการทางเพศ ทั้งยังไม่กำหนดแบบแผนมาตรการที่ชัดเจนในการจัดการปัญหาด้วย
สหรัฐฯ จะพิจารณาคว่ำบาตรไทยในอีก 90 วันหลังจากนี้ หลังจากที่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วอชิงตันเพิ่งตัดความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยแก่ไทยเพื่อต่อต้านการเข้ายึดอำนาจโดยกำลังทหาร
ข่าวโดย : กระปุกดอทคอม
ระทึก! เกิดประกายไฟชักโครกระเบิด หลังโยนแมลงสาบลงไป
วานนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์สุดระทึก หลังแม่บ้านชาวไต้หวันรายหนึ่ง โยนซากแมลงสาบที่ตีตายด้วยรองเท้าเตะ ห่อใส่กระดาษทิชชูทิ้งลงไปในโถชักโครก จนเกิดการระเบิดขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองจงลี่ เขตเถาหยวนของไต้หวัน
รายงานระบุว่า เหตุการณ์ชักโครกระเบิดในครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างที่เธอกำลังทำความสะอาดห้องน้ำ โดยเทน้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งเต็มไปด้วยสารพิษอันตราย 2 ประเภท
ซึ่งสารประเภทแรกประกอบด้วยกรดอย่างแรง ส่วนเป็นที่สองคือสารอัลคาไล ซึ่งจะทำให้เกิดก๊าซที่สามารถติดไฟได้ง่าย เมื่อแม่บ้านรายนี้โยนซากแมลงสาบลงไปในชักโคก จึงทำให้เกิดประกายไฟและระเบิดแตกกระจายอย่างรุนแรง และยังมีควันสีดำโพยพุ่งออกมาอีกด้วย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้เธอเป็นอย่างมาก แต่โชคดีที่พลเมืองดีมาเห็นทัน จึงใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดไฟไว้ได้ทัน โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ข่าวโดย : แนวหน้า
ภาพลวงโลก! ชายจีนอ้างพบมังกรเผือกหลังบ้าน ที่แท้ของปลอม ชาวเน็ตไทยลือต่อพบที่ชลบุรี
วานนี้ มีรายงานว่าเกิดกระแสฮือฮาในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับกับพบซากมังกรขาวในประเทศจีน โดยเว็บไซต์ theworldofchinese.tumblr.com รายงานว่า ชายชาวจีนคนหนึ่งอ้างว่าตนเองพบมังกรตัวเป็นๆ ที่สวนหลังบ้าน ก่อนจัดแจงถ่ายภาพโพสต์ลงบนหน้าเพจเว่ยป๋อ ซึ่งเป็นเว็บชุมชนออนไลน์ของจีน
ทั้งนี้ ชายคนดังกล่าวเล่าว่า “ตอนนั้นฝนตกหนัก ต่อมาผมได้ยินเสียงเหมือนนก หรืออะไรซักอย่างกรีดร้องเสียงดัง เลยวิ่งออกไปดูก็พบกับมังกรสีขาวที่บาดเจ็บ”
โดยระบุว่ามันยังไม่ตาย พร้อมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยเหตุดังกล่าวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในประเทศจีน ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ต่อมาไม่นานก็มีผู้นำภาพเบื้องหลังการสร้างมังกรตัวดังกล่าวด้วยวิธีการปั้นมาโพสต์ในทวิตเตอร์ พร้อมบอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงการล้อกันเล่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ภาพดังกล่าวกลับมาแพร่หลายในประเทศไทย โดยเฉพาะกับข้อความที่มีการส่งต่อๆ กันสร้างกระแสว่าพบมังกรในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมท้าให้ไปพิสูจน์กันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งด้วย
ข่าวโดย : สนุกดอทคอม
แอร์โฮสเตสสาวสายการบินจีน เกาะกระแสบอลโลก สวมเสื้อฟุตบอลทีมชาติบราซิล เอาใจลูกค้า
สายการบินสัญชาติจีน ขอตามกระแสฟุตบอลโลก 2014 ด้วยการจัดให้บรรดาแอร์โฮสเตสสาวบนเครื่องบินสวมเสื้อฟุตบอลทีมชาติบราซิล เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ “เวิลด์ คัพ” งานนี้แม้จะเป็นสายการบินเล็กๆ แต่แนวคิดนี้ได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ
ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล แม้จะไม่มีชื่อของ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้าย แต่ “ลัคกี แอร์” สายการบินภายในประเทศจีน
ขอเกาะกระแสบอลโลก ที่สร้างความฮือฮาด้วยการจับบรรดาแอร์โฮสเตสสาวสวย มาสวมยูนิฟอร์มของชาติเจ้าภาพทำหน้าที่บริการแขกบนเครื่องบิน
นอกจากจะเป็นที่ฮือฮาเนื่องจากเป็นสายการบินแรกๆ ที่นำแนวคิดนี้มาใช้ ยังได้ใจกลุ่มแฟนฟุตบอลแดนมังกร และยังได้ใจลูกค้าหนุ่มๆ จากเสื้อฟุตบอลคอกว้างชวนวาบหวิว เข้ากับมินิสเกิร์ตสั้นๆ สีขาวโชว์เรียวขาอีกด้วย