สตีเวน เจอร์ราร์ด ประกาศอำลาทีมชาติอังกฤษแล้ว หลังจากรับใช้ทีมชาติมายาวนานกว่า 14 ปี
เรียกได้ว่าช็อคแฟนฟุตบอลกันเลยทีเดียวสำหรับข่าวของซุปเปอร์สตาร์วงการฟุตบอล สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลิเวอร์พูลและทีมชาติอังกฤษได้ประกาศอำลาการเล่นทีมชาติอังกฤษแน่นอนแล้ว หลังจากรับใช้ทีมชาติมายาวนานกว่า 14 ปี และติดทีมชาติ 114 นัด
สตีเวน เจอร์ราร์ด ในวัย 34 ปี ที่สวมปลอกแขนในฐานะกัปตันทีม “สิงโตคำราม” อังกฤษ ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่งเขาไม่สามารถพาทีมไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ ได้ตัดสินใจประกาศอำลาทีมชาติเป็นที่แน่นอนแล้ว
โดยเจอร์ราร์ด กล่าวว่า “ผมขอประกาศว่า หลังจากที่รับใช้ทีมชาติอังกฤษมา 14 ปี โดยผ่านทั้งช่วงจุดสูงสุด และต่ำสุด ผมได้ตัดสินใจอำลาทีมชาติในวันนี้ ผมรักในทุกนาทีที่ได้สวมเสื้อสีขาวอันมีเชื่อเสียง และรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้ทำเช่นนั้น
ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณแฟนๆ ทีมชาติอังกฤษ และนักเตะทั้งชุดปัจจุบันและในอดีต รวมทั้งเหล่าผู้จัดการทีมและทีมโค้ช รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากเอฟเอ ที่ผมได้ร่วมงานตั้งแต่ต้นมาตลอดจนสุดทางของอาชีพ
และได้ช่วยเหลือผมในการเติมเต็มความฝัน และความทะเยอทะยาน ของเด็กชายคนหนึ่ง ผมขออวยพรให้รอย และนักเตะในทีม โชคดีในการก้าวไปข้างหน้าต่อไป” เจอร์ราร์ด แถลง
เจอร์ราร์ด กล่าวถึงการตัดสินใจในการประกาศเลิกเล่นทีม ชาติว่า “นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆ และเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากที่สุดที่ผมต้องทำในอาชีพ ผมรู้สึกเจ็บปวดกับมันตั้งแต่กลับมาจากบราซิล และได้ปรึกษาพูดคุยกับครอบครัว เพื่อนๆ และบุคคลที่ใกล้ชิดกับผมก่อนที่จะมาถึงในจุดนี้
และที่สำคัญที่สุด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นคนที่ยอด เยี่ยม และต้องดูแลร่างกายของผมอย่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการทำให้มั่นใจว่าผม สามารถทุ่มเททำทุกสิ่งทุกอย่างได้เมื่อลงสนาม
และเพื่อทำให้มั่นใจว่าผมจะยังสามารถลงเล่นในระดับสูงต่อไป รวมทั้งทุ่มแททุกสิ่งให้สโมสรลิเวอร์พูล ผมเชื่อว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง และการได้นำฟุตบอลแชมเปียนส์ลีกกลับมายังแอนฟิลด์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการตัดสินใจครั้งนี้”
ในขณะที่รอย ฮอดจ์สัน กุนซือ “สิงโตคำราม” ยอมรับว่า ผิดหวังกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของเจอร์ราร์ด แต่ก็เคารพการตัดสินใจในครั้งนี้
“เขาเป็นชายที่น่าทึ่ง และเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม เราทุกคนต่างโชคดีที่ได้เห็นเขาในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษบ่อยครั้ง มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มีใครสามารถทำสถิติอันยอดเยี่ยมในการติดทีมชาติถึง 114 ครั้ง
และเขาเป็นตัวอย่างที่ดีในการวางตัวในฐานะกัปตันทีมชาติอังกฤษ และเราตั้งหน้าตั้งตาคอยในการทำงานร่วมกับสตีเวนในฐานะบทบาททูตของทีมชาติอังกฤษต่อไปในอนาคต”
ข่าวโดย : Talkystory.com
