ยันชัด! ยิ่งลักษณ์ กลับไทยแน่ 10 สิงหาคม นี้ ซื้อตั๋วแล้ว
วันนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเดินทางกลับประเทศไทย ว่า ยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม คือวันที่ 10 ส.ค. ตามที่ได้ขออนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไว้
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ซื้อตั๋วเที่ยวบินไป – กลับ ไว้ตั้งแต่วันที่เดินทางไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ระบุเที่ยวบินการเดินทางกลับเท่านั้น
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชาย จะเดินทางด้วยสายการบินไทย ในวันที่ 10 ส.ค.จากลอสแอลเจลิส สหรัฐอเมริกา ตรงมายังประเทศไทย
ซึ่งอาจเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.หรือหากเดินทางถึงประเทศไทยเลยเที่ยงคืน ก็ถือเป็นวันใหม่ของวันที่ 11 ส.ค.ทั้งนี้ การเดินทางกลับถือเป็นไปตามที่ได้ขอ คสช.ไว้ว่า จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้
ข่าวโดย : แนวหน้า
ลือหึ่ง! ยิ่งลักษณ์ ขนกระเป๋าทัวร์ยุโรป 15 ใบ ซื้อตั๋วบินไปเที่ยวเดียว
ยิ่งลักษณ์ ขนกระเป๋าทัวร์ยุโรป 15 ใบ ลือหึ่ง! ซื้อตั๋วบินขาไปเที่ยวเดียว
วันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ พร้อมด้วยเพื่อน 2 คน และผู้ติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีก 3 คน
ซึ่งรวมไปถึงนายตำรวจติดตาม ออกเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบิน TG930 ปลายทางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อร่วมงานวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ในวันที่ 26 ก.ค.นั้น
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ในช่วงของการเช็กอิน ตำรวจติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาถึงพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จำนวน 15 ใบ
โดยแบ่งเป็นส่วนที่โหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง จำนวน 12 ใบ และนำขึ้นเครื่องด้วยตัวเองอีกจำนวน 3 ใบ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่สายการบินและแหล่งข่าว ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซื้อตั๋วเครื่องบินขาไปเที่ยวเดียว ยังไม่ได้ซื้อตั๋วขากลับแต่อย่างใด
ข่าวโดย : แนวหน้า
“โอ๊ค“ โพสต์ภาพประทับใจ นาที “ทักษิณ“ โผกอด “ยิ่งลักษณ์“ ที่สนามบินฝรั่งเศส
นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์อินสตาแกรม oak_ptt เผยแพร่ภาพวินาทีที่พ.ต.ท.ทักษิณ โผเข้าโอบกอดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และน้องสาว ขณะทั้งคู่พบกันที่สนามบินในประเทศฝรั่งเศส
ทั้งนี้ โอ๊คโพสต์ข้อความด้วยว่า “ตัดผมอยู่ดีดี ก็มีคนส่งรูปพ่อกับสาวมา”
ข่าวโดย : ข่าวสด
สำนักพระราชวัง แจ้ง ประยุทธ์ เตรียมเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราว
สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการว่า ในเวลา 17.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุขวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
ในการนี้ พ.อ.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชย์พงศ์ ฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
ทั้งนี้รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ จะเป็นวันครบรอบ 2 เดือน ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ
ข่าวโดย : กระปุกดอทคอม
นิด้าโพล ชี้ประชาชนร้อยละ 41.00 เชื่อว่า ยิ่งลักษณ์ บินไปนอกจะไม่กลับมาไทยตามกำหนด
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในโครงการรับจำนำข้าว”
โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 – 19 ก.ค. จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,247 ตัวอย่าง
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการที่ คสช. อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพักผ่อนที่ยุโรปพร้อมกับครอบครัว พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.19 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่พึงสามารถกระทำได้ ที่ผ่านมา น.ส. ยิ่งลักษณ์ ได้ให้ความร่วมมือในการเข้ามารายงานตัวต่อ คสช. มาด้วยดีตลอด
โดยไม่มีท่าทีจะฝ่าฝืนหรือหลบหนีแต่ประการใด อีกทั้งยังไม่มี คำตัดสินจากศาลชั้นสูงว่าห้ามออกนอกประเทศ ขณะที่ ร้อยละ 39.84 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดออกมาแล้ว ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการ ไม่เดินทางออกนอกประเทศ
และมีความกังวลว่าจะหลบหนีคดีและไม่กลับมาเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ ร้อยละ 7.97 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการเดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดภายในวัน ที่ 10 ส.ค. 2557 ของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ตามที่ได้ยื่นหนังสือขออนุญาตต่อ คสช. ไว้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.00 เชื่อว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ จะไม่กลับมาตามกำหนด ขณะที่ ร้อยละ 39.04 เชื่อว่ากลับมาตามกำหนด และ ร้อยละ 18.96 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 26 ก.ค. 2557 ของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กับครอบครัว พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.21 เชื่อว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ จะ ไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ ร้อยละ 9.16 เชื่อว่าจะไม่ไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ร้อยละ 13.63 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ข่าวโดย : สปริงนิวส์
“ยิ่งลักษณ์” โวย ป.ป.ช.ฟันจำนำข้าวรวบรัดเกินไป ลั่นบินยุโรปไม่หนีกลับไทยแน่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติเอกฉันท์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมาว่า
กระบวนการยุติธรรมนั้นเป็นไปตามหลักนิติธรรมสากลหรือ ไม่ เพราะมองว่าเป็นการพิจารณาที่ เร่งรีบ รวบรัด โดยแจ้งข้อกล่าวใช้เวลาเพียง แค่ 21 วัน และหลังจากนั้นก็ชี้มูลความผิดอาญาต่อดิฉัน ภายใน 140 วันซึ่ง ป.ป.ช.ไม่เคยปฏิบัติกับคดีอื่น ๆที่ดำเนินการกับนักการเมืองเช่นเดียวกับการปฏิบัติต่อดิฉัน เมื่อเทียบเคียงกับการดำเนินคดีกับการโครงการประกันราคาข้าว ที่ ป.ป.ช.ใช้ เวลาในการดำเนินการนานไม่น้อยกว่า 4 ปี คดี ปรส ที่ล้าช้า โครงการทุจริตโรงพักทั่วประเทศ ป.ป.ช. กลับไม่มีความคืบหน้า อันถือว่ามิได้มีบรรทัดฐานอย่างเดียวกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในการปฏิบัติ ของ ป.ป.ช. เมื่อเทียบกับคดีอื่น ๆ เห็นว่า คดีนี้มีพฤติการณ์ รวบรัด เป็นกรณีพิเศษคือ เลือกรับฟังพยานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตัวตน ตัดสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ในการเสนอพยานบุคคลที่เป็นส่วนสาระสำคัญ ไม่รอผลการพิสูจน์เรื่องสต็อกข้าวให้เป็นที่สิ้นสุด เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องสต็อกข้าว ทั้ง ๆที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไปร่วมสังเกตการณ์แล้ว ไม่ไต่สวนในข้อเท็จจริง กรณีการลงบันทึกบัญชีที่ข้อแย้งและแตกต่างกันของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี และ คณะกรรมการ กขช.ให้เป็นที่สิ้นสุด กรณีไม่พิจารณาการที่ตนคัดค้าน นายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. รวม 3 ครั้ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายระดับประเทศ นายกรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายบริหาร เป็นเพียงผู้กำกับดูแลเท่านั้น ส่วนในระดับปฏิบัติการนั้นเป็นการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆหลายหน่วยงาน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีขั้นตอนและกระบวนการตรวจสอบที่ชัดเจน แต่ในข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. กลับฟังความข้างเดียว ในขณะที่ความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเห็นไม่ตรงกันในข้อเท็จจริง นอกจากนี้การแถลงข่าวของ ป.ป.ช.ต่อสาธารณะที่ผ่านมา ยืนยันว่า คดีในเรื่องระบายข้าวไม่เกี่ยวข้องกับตน ทำให้ไม่ได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวมาต่อสู้ และหักล้าง แต่ในข้อวินิจฉัยในการชี้มูลกลับนำ ข้อเท็จจริงในคดีระบายข้าวมาชี้มูลความผิดกับดิฉันด้วย
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนพยายามชี้แจงและร้องขอให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่ สวน และสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเป็นธรรม แต่ ป.ป.ช. ปฏิเสธมาโดยตลอด ทั้งที่ข้อเท็จจริงอีกหลายเรื่อง เช่น ข้าวเสื่อมสภาพและข้าวหาย หน่วยงานที่ควบคุมดูแล สต็อกข้าว ทั้ง องค์การ คลังสินค้า อ.ค.ส. และ องค์การ ตลาดเพื่อเกษตรกร อ.ต.ก.ได้ทำสัญญาต่างๆ กับเจ้าของคลังสินค้า และบริษัทประกัน รับผิดชอบค่าเสียหาย
หากเกิดกรณีข้าวสูญหาย และการเสื่อมสภาพข้าวที่ผิดปกติธรรมชาติ ดังนั้นการกล่าวอ้างเรื่องรัฐ มีความเสียหายจากข้าวหาย และข้าวเสื่อมคุณภาพ จึงเป็นการไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อตนในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การกล่าวหาและการไต่สวนของ ป.ป.ช. ได้นำพยานหลักฐานและไต่สวนพยานที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนและเลือกที่จะรับฟังพยาน หลักฐานหรือไม่ ในขณะที่ตนได้พยายามเสนอพยานหลักฐานต่าง ๆแต่ ป.ป.ช.กลับละเลย และปฏิเสธที่จะไต่สวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ตนจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อที่จะหนีคดีต่างๆนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางส่วนตัว และมีกำหนดการไปกลับที่ชัดเจนและมีการเตรียมการล่วงหน้า แล้วก่อนที่ ป.ป.ช.มี มติชี้มูลความผิดอย่างเร่งด่วน วันนี้ตนเป็นราษฎรเต็มขั้นแล้วควรจะมีสิทธิเสรีภาพเยี่ยงประชาชนคนไทยทั่วไป ขอยืนยันว่า จะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชนคนไทย และพร้อมจะกลับมาสู่ประเทศไทย
ข่าวโดย : Astv ผู้จัดการ
แฟนสาว ‘ตั้ง อาชีวะ‘ แชะภาพเย้ยข่าวถูกยิงตาย
วานนี้มีกระแสข่าวจากผู้ใช้เฟซบุ๊กของผู้ใช้ชื่อ "ชายชัย ชีพยงค์" ระบุข้อความว่า มีข้อมูลการเสียชีวิตของ นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ผู้ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูง ถูกยิงเสียชีวิตแน่นอน ในประเทศกัมพูชาแต่ไม่สามารถนำออกมาแสดงได้นั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 ก.ค.) แฟนสาวคนสนิทของ ตั้ง อาชีวะ ได้โพสต์ภาพตั้ง อาชีวะ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยในภาพตั้ง อาชีวะ กำลังนั่งอยู่ในห้องแห่งหนึ่ง พร้อมสวมหูฟัง โดยมีข้อความระบุว่า "มีข่าวว่าตั้งตายแล้ว...เนี่ยถ่ายรูปติดวิญญาณด้วย...ถ่ายเมื้อกี้เอง" โดยข้อความนี้ถูกโพสต์ไว้เมื่อเวลา 15.20 น. ของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
ข่าวโดย Sanook.com
ลือสนั่น! “ตั้ง อาชีวะ“ ผู้ต้องหาหมิ่นเบื้องสูง ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ชาวเน็ตไม่เชื่อคาดเป็นข่าวลวง
ความคืบหน้าล่าสุดมีรายงานอ้างว่า นายเอกภพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ“ ผู้ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูง ถูกยิงเสียชีวิตแล้วที่ประเทศกัมพูชา โดยเฟซบุ๊กของ “ชายชัย ชีพยงค์” ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กยืนยันว่า “ตั้ง อาชีวะ” เสียชีวิตแล้ว
พร้อมบอกอีกว่าไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งข้อความของ “ชายชัย ชีพยงค์” ระบุดังนี้
ขณะเดียวกัน มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญไม่เชื่อข่าวลือดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการกุข่าวขึ้นมา พร้อมระบุว่าต้องมีภาพศพของตั้ง อาชีวะ มายืนยันให้ชัดเจน
ข่าวโดย : สปริงนิวส์
สุเทพ เทือกสุบรรณ บวชเงียบ ที่วัดท่าไทร จ.สุราษฎร์ธานี คนแห่ร่วมอนุโมทนาบุญ
วานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียล เน็ตเวิร์ค มีการแชรข้อความและภาพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ได้เข้าพิธีอุปสมบทอย่างเงียบๆ ที่วัดท่าไทร ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ จ.สุราษฎร์ธานี
คาดว่าบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของ กปปส. ซึ่งคาดว่าจะอยู่จำวัดจนกระทั่งออกพรรษาและทันทีที่มีภาพปรากฎในโลกออนไลน์ มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นร่วมอนุโมทนาบุญอย่างมากมาย
อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดหมายกันว่า หลังจากอุปสมบทเสร็จสิ้น “พระสุเทพ” จะไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนโมกขพนาราม ในอ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจาก “พระสุเทพ” เคยบวชเรียนที่วัดสวนโปกขพนารามมาก่อน
นายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ทวิตข้อความผ่านทวีตเตอร์ว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสุเทพยัง ทานข้าวมื้อค่ำกับพรรคพวกที่กรุงเทพ ตอนเช้าบินไปสุราษฎร์ธานี ลงเครื่องแล้ว เดินทางต่อไปวัดท่าไทรกับคนขับรถ เข้าพิธีอุปสมบทโดยทันที
รายงานระบุด้วยว่า การอุปสมบทครั้งนี้ แม้แต่นายเชน เทือกสุบรรณ และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ะพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นน้องขายของนายสุเทพยังไม่ทราบเรื่องการบวชนี้มาก่อนเช่นกัน
ข่าวโดย : แนวหน้า
วานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียล เน็ตเวิร์ค มีการแชรข้อความและภาพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ได้เข้าพิธีอุปสมบทอย่างเงียบๆ ที่วัดท่าไทร ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ จ.สุราษฎร์ธานี
คาดว่าบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของ กปปส. ซึ่งคาดว่าจะอยู่จำวัดจนกระทั่งออกพรรษาและทันทีที่มีภาพปรากฎในโลกออนไลน์ มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นร่วมอนุโมทนาบุญอย่างมากมาย
อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดหมายกันว่า หลังจากอุปสมบทเสร็จสิ้น “พระสุเทพ” จะไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนโมกขพนาราม ในอ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจาก “พระสุเทพ” เคยบวชเรียนที่วัดสวนโปกขพนารามมาก่อน
นายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ทวิตข้อความผ่านทวีตเตอร์ว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสุเทพยัง ทานข้าวมื้อค่ำกับพรรคพวกที่กรุงเทพ ตอนเช้าบินไปสุราษฎร์ธานี ลงเครื่องแล้ว เดินทางต่อไปวัดท่าไทรกับคนขับรถ เข้าพิธีอุปสมบทโดยทันที
รายงานระบุด้วยว่า การอุปสมบทครั้งนี้ แม้แต่นายเชน เทือกสุบรรณ และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ะพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นน้องขายของนายสุเทพยังไม่ทราบเรื่องการบวชนี้มาก่อนเช่นกัน
ข่าวโดย : แนวหน้า
คสช. มีคำสั่ง ปลดนายประภัสร์ จงสงวน พ้นตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟ แล้ว!
เพื่อให้การปฎิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจึงมีคำสั่งให้ นายประภัสร์ จงสงวน พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2557
ข่าวโดย : Talkystory.com
คสช. เตรียมปลด “ประภัสร์” พ้นเก้าอี้ เผย “พล.อ ประยุทธ์“ ให้ความสนใจ
พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการรวมตัวกันของกลุ่มกลุ่มโซเชียลมีเดีย เพื่อเรียกร้องให้มีการประหารชีวิตคนร้ายฆ่าและข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีนนทบุรี จนเสียชีวิต
ว่า โดยเรื่องนี้ต้องดูลักษณะการชุมนุมของกลุ่มบุคคล เพราะการชุมนุมในระยะนี้ อยู่ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึก ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมือง หรือการชุมนุมใดๆ ก็ตาม ย่อมขัดต่อกฎอัยการศึก
ทั้งนี้ จะพิจารณาความเหมาะสม โดยอยากเสนอให้กลุ่มดังกล่าวส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. เหมือนกับหน่วยงานที่ได้ดำเนินการ ซึ่งถือเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น คสช.ทราบว่า คดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
ซึ่งทางหัวหน้า คสช. ก็ได้เน้นย้ำให้ไปดำเนินการอย่างเต็มที่กับคนร้าย พร้อมทั้งไปดูว่า ผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละส่วน ให้ไปหามาตรการมาเสริมในจุดที่เป็นช่องโหว่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบขององค์กรนั้นๆ ที่จะต้องไปรวบรวมหามาตรการเสริมในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของการรถไฟฯ เพื่อป้องกันจุดบอด ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก
เมื่อถามว่ามีเสียงสะท้อนจากประชาชนในสังคม เรียกร้องให้นายประภัสร์ลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้า คสช. จะนำไปพิจารณาหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า หัวหน้า คสช. มีความสนใจในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในทุกเรื่อง
และต้องยอมรับว่า เรื่องนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องไปพิจารณากันในรายละเอียดกันอีกครั้ง
ข่าวโดย : ไทยรัฐ
ไม่รอด! กต.ถอนพาสปอร์ต โรส-จักรภพ-ตั้ง อาชีวะ แล้ว
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีการถอนพาสปอร์ตของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสุนัย จุลพงศธร น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส เสื้อแดง
นายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ และนายอรรถชัย อนันตเมฆว่า ได้ดำเนินการแล้วตามกระบวนการ หลังได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ดี ต้องมีขั้นตอนตามระเบียบที่จะต้องปฏิบัติต่อไป สำหรับนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ยังต้องมีกระบวนการตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบเข้าใจว่าขณะนี้ไทยและฮ่องกงยัง ไม่มีสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน จึงต้องมีการหารือว่า จะใช้ช่องทางใดได้บ้าง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งต้องมีคำขออย่างเป็นทางการจากอัยการสูงสุด ซึ่งเข้าใจว่าอยู่ในกระบวนการดำเนินการ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางของบุคคลที่ถูกออกหมายจับทั้ง 6 รายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ
หลังกระทรวงการต่างประเทศได้รับหนังสือจาก สตช. ขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของทั้ง 6 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีในคดีอาญาที่ได้ออกหมายจับไว้แล้ว
ข่าวโดย : แนวหน้า
เมื่อวันที่ 25 มิถนายน นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ฉัตรวดี ได้ โพสต์ภาพและข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยภาพดังกล่าวเป็นรูปพาสปอตร์ตของประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งได้เขียนข้อความว่า รู้สึกภูมิใจมากที่เป็นคนอังกฤษและยังได้สัญญาว่าจะช่วยเหลือคนรากหญ้าที่ อยู่ในประเทศไทยให้ได้รับประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ ดีขึ้นเหมือนกับคนอังกฤษและคนยุโรป
ทั้งนี้โรส ฉัตรวดียังได้กล่าวพาดพิงถึงคนเสื้อเหลืองของไทยที่เป็นพวกคลั่งเจ้าว่าเป็น พวกชอบโกหกหลอกทั้งคนไทยและคนทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถนำตัวคนที่หมิ่นสถาบันกลับไป ดำเนินคดีได้
ซึ่งสาเหตุที่นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ฉัตรวดี รูปพาสปอตร์ตประเทศอังกฤษของตนเอง ก็เพื่อเป็นการตอบโต้กระแสข่าวที่ ว่าตนเองยังไม่ได้รับสัญชาติอังกฤษและยังคงถือสัญชาติไทย อีกทั้งยังต้องการตอบโต้ทางการไทยที่ออกหมายจับในความผิดอาญามาตรา 112 และเตรียมถอนหนังสือเดินทางของประเทศไทย เนื่องจากยังถือสัญชาติไทยอยู่ ยังไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตั้ง 5 ชุด เฉพาะกิจกองปราบฯ ตามจับกลุ่มหนีหมายคสช. และ พวกหมิ่นสถาบันฯ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง กล่าวว่า สำหรับบุคคลที่ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม
ออกคำสั่งกองบังคับการปราบปราม ที่ 173/2557 เรื่อง แต่งตั้งชุดปฏิบัติการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดคดีความมั่นคง โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.นรบุญ จัดชุดปฏิบัติการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำผิดฐานไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. และผู้ต้องหาตามหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดต่อสถาบัน ขึ้นมา 5 ชุด
ประกอบด้วย พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เป็นหัวหน้าควบคุมชุดปฏิบัติการฯ
พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผู้กำกับการ ผกก.1 ป. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติที่ 1
พ.ต.อ.นิรันด์ นามสุวรรณ ผกก. 2 ป. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2
พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3ป. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 3
พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.4 ป. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 4
พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 ป. เป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 4
พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6 ป. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5
พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษฯ รักษาราชการแทนผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการปราบปราม เป็นรองหัว หน้าชุดปฏิบัติการที่ 5
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิจารณาจัดกำลังประกอบชุดปฏิบัติการตามความเหมาะสม เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยให้มีอำนาจทำการสืบสวนจับกุมในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราช อาณาจักร
โดยเฉพาะความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ความผิดมาตรา 112 มาตรา 116 ความผิดเกี่ยวกับฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. และความผิดอื่นๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมาย
ข่าวโดย : INN
วันที่ 24 มิ.ย. นี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแขวงสมุทรปราการอ่านคำพิพากษาในคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้อง บ.เพรสซิเด้นท์อะกริ จำกัด กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อายุ 50 ปี นักธุรกิจชื่อดัง และยังเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยฐานยักยอกข้าวกระทรวงพานิชย์ ที่ต้องส่งไปขายอิหร่าน 20,000 ตัน มูลค่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลพิพากษารวม 2 สำนวน ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยทั้งสองรับข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ไว้ในครอบครอง เพื่อเอาไปปรับปรุงข้าว แล้วมีเจตนาเบียดบังทรัพย์เป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจำเลยได้ขายข้าวจำนวน 20,000 ตัน ไปให้ประเทศอื่นในนามของบริษัท จึงเป็นการผิดสัญญากับรัฐ จึงเป็นความผิดยักยอกทรัพย์ รวม 2 สำนวน ลงโทษจำคุกสำนวนละ 3 ปี ปรับบริษัทสำนวนละ 6,000 บาท รวมจำคุก 6 ปี ปรับ 12,000 บาท ด้านนายอภิชาติ ได้ขอยื่นประกันตัวต่อศาลออกไป พร้อมยื่นขออุธรณ์ต่อไปทันที
ที่มา sanook.com
ศาลอนุมัติหมายจับ 28 ผู้ต้องหา ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ไม่ยอมเข้ารายงานตัว โรส ฉัตรวดี- ตั้ง อาชีวะ -จักรภพ ไม่รอด!!
พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.ได้นำหนังสือร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.
ให้ดำเนินคดีกับ 28 ผู้ต้องหาที่ฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยไม่เข้ารายงานตัวภายในกำหนดเวลา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนขออนุมัติหมายศาล ซึ่งต่อมาศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 28 คน ไว้แล้ว
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย 1.นายขรรค์ชัย บุนปาน 2.นายใจลส์ใจ อึ๊งภากรณ์ 3.นายจักรภพ เพ็ญแข 4.นายพิษณุ พรหมสร 5.นายเนติ วิเชียรแสน 6.นายองอาจ ธนกมลนันท์ 7.นายอำนวย แก้วชมภู 8.นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน 9.นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ 10.นายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ 11.นายเสน่ห์ ถิ่นแสน 12.นายภิเษก สนิทธางกูร 13.นายสันติ วงษ์ไพบูลย์14.นางมนัญชยา เกตุแก้ว
15.น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส 16.นายจุติเทพ หรือเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ 17.นายทนง ศิริปรีชาพงษ์18.นายอุสมาน สะแลแมง 19.นายฉกาจ คหบดีรัตน์ 20.นายชัยพฤกษ์ สมานรักษ์ 21.นายรังสฤษฎิ์ ธิยาโน 22.นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ 23.นายยงยุทธ บุญดี 24.นายอัมรา วัฒนกูล 25.นายเกษมสันติ จำปาเลิศ 26.นายนิทัช ศรีสุวรรณ 27.น.ส.นุ่มนวล ยัพราช และ 28.นายวิระศักดิ์ โตวังจร
ทั้งนี้ ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวโดย : เดลินิวส์
ไม่นานมานี้ มีกระแสข่าวลือไปทั่วโลกออนไลน์ว่า คสช. จะแจกเน็ตให้เล่นฟรี 10 วัน แต่ก็ไม่มีที่มาของข่าว กระทั้ง พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่มีข้อความส่งต่อในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า ทาง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ร่วมมือกับผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต เปิดให้ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี 10 วัน ความเร็วสูงสุดรวม 1 GB นั้น
ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ไม่มีโครงการร่วมกับบริษัทเอกชนในลักษณะนี้ ส่วนจะเป็นบริการหรือโปรโมชั่นที่ทางผู้บริการอินเทอร์เน็ต (AIS) จัดทำขึ้นหรือไม่นั้น ต้องรอชี้แจงจากบริษัทโดยตรง
ข่าวโดย : ข่าวสด
ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ไม่มีโครงการร่วมกับบริษัทเอกชนในลักษณะนี้ ส่วนจะเป็นบริการหรือโปรโมชั่นที่ทางผู้บริการอินเทอร์เน็ต (AIS) จัดทำขึ้นหรือไม่นั้น ต้องรอชี้แจงจากบริษัทโดยตรง
ข่าวโดย : ข่าวสด
วาสนา นาน่วม โพสต์ระบุ กลาโหม ร่อนหนังสือ ให้ ประยุทธ์ เกษียณราชการ 30 ก.ย. นี้
วานนี้ ที่ เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ของ วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กลามโหม ออกคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบ คสช. เกษียณราชการตามวาระ มีความดังต่อไปนี้…
“กลาโหม ออกคำสั่ง ให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ผบ.ทบ.เกษียณราชการ แล้วตามวาระ…พร้อม ผบสส.ผบทร.ผบทอ. แต่ไว้ใกล้ ๆ 30 ก.ย.รอดูว่า จะมีคำสั่งให้ ต่ออายุหรือไม่
กระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รักษาการปลัดกลาโหม และทำหน้าที่แทน รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งที่ 374/2557 เรื่องให้นายทหารออกจากราชการ เนื่องจากครบกำหนดเกษียณราชการ โดยในส่วนของ ทบ. จำนวน117นาย รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ด้วย…
ขณะที่ บรรดา รองหัวหน้า คสช. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ก็เกษียณราชการ เช่นกัน
โดยกลาโหม ออกคำสั่งเกษียณมาไล่เลี่ยกันแล้ว…ท่ามกลางการจับตามองว่า จะมีการต่ออายุ พล.อ.ประยุทธ์ ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. เพื่อทำหน้าที่ หัวหน้า คสช. ดูแล การทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชั่วคราว ที่จะตั้งขึ้น ต้น ก.ย. นี้หรือไม่
หรือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยอมเกษียณ แล้วเป็น หัวหน้า คสช. ตำแหน่งเดียว ไม่ต่ออายุ ควบ ผบ.ทบ….แต่ถ้า เป็น หัวหน้า คสช.ต่อ โดยเกษียณราชการ แต่ไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. ก็จะไม่มีอำนาจ แบบภาษาทหารที่เรียกว่า “เท้าลอย”….
แต่หาก ต่ออายุ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว จะต้องต่ออายุ ผบสส. ผบ.ทร.และ ผบ.ทร.ด้วยหรือไม่ …หรืออีกทางเลือก คือ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว ตั้ง ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ ขึ้นมาแทนตามปกติ น้อง ๆ ในกองทัพจะได้ขยับขึ้นกันตามไลน์….ยังมีเวลา หยั่งกระแส ประชาชน และตัดสินใจ
โอ๊ค โพสต์อวยพรวันเกิด ยิ่งลักษณ์ ระบุความสุขที่แท้จริง คือประชาธิปไตย
วานนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว @Oak Panthongtae Shinawatra อวยพรวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประชาธิปไตย คือความสุขที่แท้จริง
“Happy Birthday ครับอาปู
เนื่องจากข้อจำกัดบางประการ โอ๊คจึง ไม่สามารถไปอวยพรวันเกิดอาปูในปีนี้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี จึงต้องขออภัยและขออนุญาตอวยพรอาปูผ่านทางเฟสบุ๊คนี้
โอ๊คเชื่อว่าปีนี้ คงมีคนอยากเจอ และอยากไปอวยพรอาปูด้วยตัวเอง มากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถกระทำได้เช่นกัน จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันอวยพรอาปูในเฟสบุ๊คนี้ พร้อมๆกันไปเลย
ขอให้อาปูมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และมีกำลังใจที่เข้มแข็งพร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง ที่จะประดังเข้ามาในปีนี้ ไปให้จงได้ พวกเราทุกคนพร้อมที่จะเป็นกำลังใจ และยืนเคียงข้างอาปูเสมอ
วันใดที่อาปูท้อ ขอให้คิดเสมอว่า อาปูคือเสาหลัก ของประชาธิปไตยใน เวลานี้ อาปูคือนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่มีคนออกมาเลือกเกินครึ่งหนึ่งของผู้ใช้สิทธิ์ทั่วประเทศ และอาปูจะเป็นนายกฯ คนสุดท้ายที่มาจากการเลือกตั้งไปอีกนาน… นานตราบเท่าถึงวันที่คนไทย จะได้ความสุขที่แท้จริง ที่ชื่อ “ประชาธิปไตย”กลับคืนมา
ยินดีให้ความร่วมมือ ด้วยการไม่เขียนอะไรมากไปกว่านี้ครับ หากเกินเลยไปบ้าง ขอให้นึกซะว่าเป็นการ “คืนความสุข” เล็กๆ ให้กับผม เนื่องในวันเกิดของอาปูในวันนี้ละกัน ขอให้อาปูมีความสุขมากๆ ครับ”